ผู้สนับสนุน

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Transporter 3 การกลับมาอีกครั้งของไอ้บ้าแฟรงค์


TRANSPORTER 3
ชื่อไทย เพชฺฌฆาต สัญชาติเทอร์โบ
ข้อมูลจำเพาะ
ผู้กำกับ โอลิเวียร์ เมกาตัน Olivier Megaton
เขียนบท ลูค เบสซอง(Luc Besson ) & โรเบิร์ต มาร์ค คาเมน Robert Mark Kamen
นักแสดง Jason Statham
Natalya Rudakova
François Berléand
Robert Knepper


เรื่องย่อ

จู่ๆ แฟรงค์ มาร์ติน (เจสัน สเตทแธม) ก็โดนจับพร้อมถูกใส่ข้อมือไว้ด้วยระเบิดที่ส่งสัญญาณเชื่อมต่อเข้ากับรถประจำตัวของเขา เขาโดนกลุ่มคนร้ายที่นำทีมโดยจอห์นสัน (โรเบิร์ต เนปเปอร์)บังคับให้ขับรถไปส่งของพร้อมด้วยเพื่อนนั่งข้างๆ คือ วาเลนติน่า (นาธาลยา รูดาโกวา) โดยมีที่หมายคือบูดาเปสต์ ด้วยความสับสนแฟรงค์เริ่มต้นหาความจริงจากเรื่องลึกลับดังกล่าว โดยมีสารวัตรทาโคนี (ฟรองซัวร์ แบร์ลอง) เป็นผู้ช่วยเหลือ เป็นจุดเริ่มต้นของความมันส์ไม่น้อยกว่าเหตุการณ์ในภาคก่อนๆ

ความเห็นส่วนตัวของนายจ๊อบ
แฟรงค์ มาร์ติน ไอ้โล้นซ่าตีนผีจอมกวนโอ๊ยมาอีกแล้วครับท่าน หลังจากที่ภาคแรกควงคู่มากับซูฉีนางเอกสาวสุดเซ็กซี่จากเอเซีย ในโลเกชันฝรังเศสและไปเยี่ยมอเมริกาในภาคที่สอง ภาคที่ 3 แฟรงค์ กลับมาฝรั่งเศสอีกครั้งเพื่อตระเวนบู๊ไปถึงเยอรมัน บูดาเปสต์และยูเครน
สำหรับคอหนังแอ็คชันไม่ต้องบรรยายว่าหนังภาคต่อเรื่องนี้จะำทำให้ผิดหวังหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงทีมสร้างจากฝรังเศส คือทีมของ ลูค เบสซอง ซึ่งเป็นผู้ควบคุมธีมหลักของเรื่อง ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาค3 โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงสไตล์หนังของเบสซอง ซี่งพี่แกเน้นหนังแอ็คชันถล่มรายได้แนวเดียวกับเจอรี่ บรัึคไฮเมอร์ จากฮอลลีวู้ด โดยเน้นความพินาศวอดวายของฉากต่างๆ มุขตลกกวนโอ๊ยสุดๆ และในส่วนของเบสซองก็เน้นเรื่องของความเร็วเป็นหลักเหมือนหนังฮิตๆ ของพี่แกหลายๆ เรื่อง เช่น แท็กซี่ทั้ง 4 ภาค ที่เป็นหนังโปรด ของใครหลายคน
สำหรับทรานสปอรตเตอร์ 3 แนวหนังไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่ก็เพิ่มมุขใหม่ๆ เข้ามาเพื่อไม่ให้เกิดความจำเจกับภาคเก่า แต่อาจจะมีบางฉากที่ไปคล้ายกับหนังเรื่องอื่นบ้าง เช่น ฉากที่เฮียแฟรงค์เจอกับไอ้ยักษ์ตัวโต ที่ทำให้คิดถึงหนังของแจ็คกี้ ชานหลายๆ เรื่อง หรือฉากเด็ดที่เฮียแกขับรถตะแคงแซงเข้าไปตรงกลางระหว่างรถเทรลเลอร์ 2 คนที่กำลังวิ่งอยู่ ก็ทำให้นึกถึงหนังอย่างน้อยก็ 2 เรื่อง คือ เจมส์บอนด์ ภาคที่จอร์จ ลาเซนบี้เป็นพระเอก (รึเปล่า?) และหนังเรื่อง Who Am I ของเฮียชาน นั่นแหละ แต่ถึงอย่างไร ฉากต่อสู้ในเรื่องก็ยังมันส์เหมือนเดิม แม้ว่าเฮียแฟรงค์แกจะถอดเสื้อออกมาโชว์กล้ามเรียกน้ำย่อยสาว(แท้และไม่แท้) อยู่บ่อยๆ ก็ตาม
นอกจากนี้แล้ว ในภาคสามรู้สึกว่าเฮียแฟรงค์จะมาแนวแปลกกว่าภาคก่อนๆ อยู่บ้าง คือรู้สึกว่าจะช่างจ้อเหลือเกิน ไม่เหมือนภาคก่อนที่มาแนวเก็กพูดน้อยต่อยหนัก แต่ภาคนี้พูดจาเป็นต่อยหอย สงสัยจะคลุกคลีอยู่กับซี้ปึ้กอย่างสารวัตรทาโคนีมากไปหน่อยจึงติดนิสัยช่างจ้อมาตั้งเยอะ แล้วยังบรรยากาศที่เฮียแฟรงค์ตกอยู่ในช่วงโรมานต์กับนางเอกอีก (ไม่ยักเหมือนภาคแรกที่พี่แกฟันแล้วทิ้งเฉย 5555) ทำให้สงสัยว่าถ้ามีภาคที่ 4 ต่อมาอีกเฮียลูค เบสซอง จะให้เฮียแฟรงค์เปลี่ยนแปลงไปในทางไหนได้อีก
สรุปแล้วหนังเรื่องนี้ไม่ควรพลาดโดยประการทั้งปวง ดูแล้วคลายเครียดได้เยอะ หลีกหนีบรรยากาศซึมเศร้าที่กำลังเป็นอยู่ทั่วๆไปได้เป็นอย่างดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น: